1. เลือกตามประเภท

• แบบไอน้ำ STEAM
  เครื่องพ่นไอน้ำแบบ STEAM มีประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรีย และสามารถ เพิ่มความชื้นได้ดี เหมาะกับการใช้ช่วงที่มีอากาศแห้งมาก อย่างเช่น ฤดูหนาว เครื่องทำงานด้วยการใช้ความร้อนสร้างไอน้ำ ให้ไอน้ำกระจายไปทั่วห้อง เครื่องประสิทธิภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความแข็งแรง ทนทาน ราคาสูงกว่าเครื่องทำความชื้นชนิดอื่น
• แบบพ่นไอน้ำแบบ ULTRASONIC
  เครื่องทำความชนิดนี้ได้รับความนิยม การทำงานของเครื่อง ใช้คลื่นอัลตราโซนิค มาทำปฏิกิริยาให้น้ำกลายเป็นละอองน้ำ แบบละเอียดสามารถกระจายความชื้นอย่างกว้าง ราคาไม่สูงมาก และยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวก สามารถใช้กับกลิ่นหอมจำพวก อโรม่า ต่าง ๆ ได้ เหมาะกับการใช้ในห้องนอน หรือห้องรับแขกเพื่อผ่อนคลาย หลับสบาย แต่มีข้อเสียคือคลื่นจะทำปฏิกิริยากับเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำ จะต้องทำความสะอาดเปลี่ยนไส้กรองอยู่เสมอหรือหากเครื่อง รุ่นที่มีฟังก์ชันกำจัดแบคทีเรีย

2. ตรวจสอบขนาดของห้อง

เครื่องพ่นไอน้ำ หรือ เครื่องทำความชื้น มักมีขนาดเล็ก จึงเหมาะกับการใช้งานที่เป็นห้องปิดเพื่อกระจายความชื้นได้ทั่วถึง ตำแหน่งที่วางควรวางในที่สูงเช่นบนโต๊ะ เครื่องพ่นไอน้ำแต่ละรุ่นจะระบุขนาดของห้องไว้ คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ

3. ใช้งานง่าย

เพื่อการใช้งานที่สะดวก และต่อเนื่อง ประหยัดพลังงาน ควรเลือกการชาร์จไฟด้วยUSB

4. สามารถเพิ่มกลิ่นหอมอโรม่าได้

เพื่อการใช้งานที่หลากหลายและเพิ่มความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ควรเลือกเครื่องทำความชื้นที่สามารถใส่น้ำมันหอมระเหยได้ จะช่วยเพิ่มความหอมสดชื่น

5. ฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย

เครื่องพ่นไอน้ำในปัจจุบัน มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย แบบ 3in 1 ที่สามารถเป็นเครื่องเพิ่มความชื้น มีกลิ่นหอมอโรมา เป็นโคมไฟ และยังต้องมีความปลอดภัยมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำแห้ง

6. การดีไซน์

สำหรับบางท่านการดีไซน์เป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ห้องของคุณดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น การเลือกรูปทรงของเครื่องให้เข้ากับบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญ

7. การทำความสะอาด

เครื่องทำความชื้นควรที่จะต้องมีการการออกแบบให้ง่ายต่อการทำความสะอาด สามารถถอดชิ้นส่วนออกมาทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค